ที่มา กรมสรรพากร
กรมสรรพากร เปิดให้บริการ E-Tax Invoice by E-mail ตั้งแต่ 1/3/60 เป็นต้นไป สำหรับผู้ประกอบการรายได้ไม่เกิน 30 ล้าน โดยสมัครใจครับ มาลองดูครับว่า มีรายละเอียดของบริการนี้อย่างไร
[wds id=”3″]
ที่มา ETAX.TEDA.TH
นอกจากนี้ ทางกรมสรรพากรได้ให้ข้อมูล FAQ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดังนี้
คำถาม | คำตอบ |
---|---|
1. โครงการ e-Tax Invoice by Email คือโครงการอะไร | เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถจัดทำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และ ส่งผ่าน e-Mail เพื่อไปประทับรับรองเวลาที่ สพธอ. (สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)) |
2. ใครสามารถใช้งานระบบในลักษณะนี้ได้บ้าง | ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปีภาษีหรือต่อรอบระยะเวลาบัญชี |
3. ถ้าไม่ใช้งานระบบนี้ยังออกใบกำกับภาษีเป็นกระดาษหรือไม่ | ได้ |
4. สามารถใช้วิธีการนี้ ร่วมกับวิธีการออกใบกำกับภาษีเป็นกระดาษได้หรือไม่ | สามารถใช้ควบคู่กันไปได้ |
5. มีค่าบริการหรือไม่ | ไม่มี แต่ต้องลงทะเบียนกับกรมสรรพากร |
6. ข้อมูลใบกำกับภาษีถูกส่งไปที่ใด | ข้อมูลจะถูกประทับรับรองเวลาและจัดเก็บในฐานข้อมูล พร้อมส่งให้แก่ผู้ขายและผู้ซื้อเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม |
7. ถ้าไม่ใช้จะมีผลอะไร | สามารถเลือกใช้วิธีอื่นได้ขึ้นอยู่กับความสะดวก ระบบนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานเท่านั้น |
8. ระบบนี้มั่นคงปลอดภัยหรือไม่ | มีความมั่นคงปลอดภัย เพราะมีการพัฒนาระบบตามมาตรฐานของการรับส่งอีเมลที่มีการตรวจสอบการปลอมแปลงอีเมลตามรูปแบบ SPF (Sender Protocol Framework) และ Domain Key validation (DV) สำหรับข้อมูลของระบบนั้นได้รับการจัดเก็บที่หน่วยงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO27001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบบริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ รวมถึงมีประทับรับรองเวลาดิจิทัล (Digital Timestamping) กับใบกำกับฯ ด้วยเทคโนโลยี PKI หมายเหตุ 1: Sender Policy Framework (SPF) เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้ตรวจสอบว่าอีเมลที่เราได้รับนั้น เป็นอีเมลที่มาจากโดเมนของผู้ส่งจริงหรือไม่ โดยที่ผู้ที่เป็นเจ้าของโดเมนจะต้องทำการเพิ่ม SPF record ให้กับโดเมนของตนเอง ด้วยการระบุลงไปว่าอีเมลที่มาจากโดเมนนั้นๆ จะถูกส่งออกมาจากเซิร์ฟเวอร์เครื่องใด หมายเลข IP Address อะไรบ้าง วิธีการนี้จะช่วยให้สามารถกลั่นกรอง Spam mail ได้ดียิ่งขึ้น เพราะ Spammer มักจะปลอมตัวแอบใช้โดเมนของคนอื่นในการส่ง Spam mail ดังนั้นเมื่อตรวจสอบได้ว่าเป็นการปลอมแปลงโดเมน การคัดแยกอีเมลให้ไปอยู่ในกลุ่มของ Spam mail ก็ทำได้มีประสิทธิภาพขึ้น (ที่มา http://kokzard.blogspot.com) หมายเหตุ 2 : Domain Key Validation : เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำ SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์กับเว็บเบราว์เซอร์หรือ Application ที่ใช้งาน โดยรูปแบบ DV มีลักษณะที่ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือนามบุคคล, ตรวจสอบความเป็นเจ้าของโดเมน, รูปกุญแจล็อคบน Browser และ ออก Certificate ได้รวดเร็ว รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาได้จาก ssl.in.th (ผู้ให้บริการ SSL อันดับหนึ่งในไทย) หมายเหตุ 3: PKI หรือ Public Key Infrastructure : เป็นเทคโนโลยีที่อาศัยระบบรหัสแบบกุญแจสาธารณะ (Public Key Cryptography) ที่ประกอบด้วยกุญแจส่วนตัว (Private key) และกุญแจสาธารณะ (Public key) ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวใช้ในการพิสูจน์ตัวจริง (Authentication) รวมทั้งการรักษาความลับของข้อมูล (Data Confidentiality) ความครบถ้วนของข้อมูล (Data Integrity) และการห้ามปฏิเสธความรับผิด (Non-repudiation) โครงสร้างพื้นฐานกุญแจสาธารณะประกอบด้วยผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification Authority - CA) เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียน (Registration Authority - RA) ระบบบริการไดเรกทอรี (Directory service) และผู้ขอใช้บริการ (Subscriber) ) |
9. ถ้าใช้ระบบนี้แล้วจำเป็นต้องจัดทำใบกำกับภาษีเป็นกระดาษหรือไม่ | ไม่จำเป็น สามารถนำส่งและจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้เลย |
10. ผู้ประกอบการจะต้องจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบใด | รูปของไฟล์ประเภท Microsoft Word (.doc, .docx), Microsoft Excel (.xls, .xlsx) หรือ Portable Document Format (.pdf) เท่านั้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องบันทึกให้อยู่ในรูปของ PDF/A-3 เท่านั้น หมายเหตุ : PDF/A-3 เป็นไฟล์เอกสาร PDF ที่ออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษาในระยะยาว (Long-term Preservation) ตามมาตรฐาน ISO 19005-3 โดยให้ Support Embeded File |
11. เปิดให้ใช้ได้บริการได้เมื่อไหร่ | 1 มีนาคม 2560 |
12. การประทับรับรองเวลาคืออะไร ทำเพื่ออะไร (Time-Stamp) | การประทับรับรองเวลาคือการให้บุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือ เป็นผู้ประทับรับรองว่าข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นเกิดขึ้นจริง ณ เวลาที่รับรอง เพื่อให้มีหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ภายหลัง วิธีการทางเทคนิคเพื่อรับรองความมีอยู่ของเอกสารหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ ขณะที่มีการประทับรับรองเวลา และสามารถตรวจพบได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแก่เอกสารหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นับแต่ที่ได้มีการประทับรับรองเวลาหรือไม่ |
13. ทุกคนต้องใช้ระบบนี้หรือไม่ | ปัจจุบันยังไม่มีการบังคับใช้ แต่รัฐบาลมีนโยบายให้ผู้ประกอบการที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท จะต้องออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 |
14. ในระบบนี้ผู้ขายสินค้า/ให้บริการจะออกใบกำกับภาษีเมื่อใด | ผู้ขายสินค้า/ผู้ให้บริการต้องออกใบกำกับภาษีเมื่อมีความรับผิดเกิดขึ้นเช่นเดียวกับการออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษ |
15. ผู้ประกอบการสามารถ พิมพ์ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่ | สามารถพิมพ์ได้ แต่กรมสรรพากรตรวจเอกสารหลักฐานจากใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น |
16. ตามระเบียบของกรมสรรพากร ต้นฉบับใบกำกับภาษีต้องส่งมอบให้ผู้ซื้อ และสำเนาต้องเก็บไว้ที่ผู้ขาย หากเป็นการจัดทำและส่งด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ใครจะต้องเป็นผู้จัดเก็บต้นฉบับ | หากเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จะถือว่าเป็นต้นฉบับ ทุก copy ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายจะต้องจัดเก็บใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการประทับรับรองเวลา รวมถึง e-mail ที่ได้รับจากระบบด้วย |
17. หากเป็นผู้ประกอบการที่ส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังสามารถออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษได้หรือไม่ | ผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีได้ทั้ง 2 รูปแบบแต่ต้องกำหนดไว้ในรายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขายว่าใบกำกับภาษีใดออกโดยวิธีใด |
ที่มา ETAX FAQ
พร้อมกันนี้ กรมสรรพากรได้ออก “ระเบียบกรมสรรพากรว่าด้วยการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email พ.ศ. 2560 ประกอบด้วย ระเบียบว่าด้วย คำขอ การจัดทำและส่งมอบ การเก็บรักษา การเปลี่ยนแปลง การแก้ไขยกเลิก การเพิกถอน ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ที่มา กรมสรรพากร
จะพูดกันง่าย ๆ คือเป็นการทดลองระบบ E-Tax Invoice ของกรมสรรพากรครับ เชิญชวนให้ผู้ประกอบการที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้าน ที่กฎหมายบังคับให้เข้าระบบปี 2563 มาเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2560 โดยให้เครดิตว่า ช่วยลดต้นทุน ดังนั้นจึงยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนอะไรครับ
สำหรับ ECONS จะต้องมีการปรับปรุงโปรแกรมให้รองรับในเรื่องนี้โดยเร็วครับ โดยการปรับปรุงโปรแกรมคาดว่าจะมีหัวข้อในการปรับปรุงดังนี้ครับ
- ระบบบัญชีลูกหนี้ – หน้าบันทึกใบสำคัญตั้งลูกหนี้และใบสำคัญรับเงิน : แก้ไขให้สามารถระบุได้ว่าออกใบกำกับภาษีผ่าน E-Tax Invoice หรือไม่
- ระบบบัญชีลูกหนี้ – พิมพ์ใบกำกับภาษี : แก้ไขให้สามารถสร้างรายการ E-Tax Invoice เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าและกรมสรรพากร
- ระบบบัญชีลูกหนี้ – พิมพ์รายงานภาษีขาย : แก้ไขให้แสดงข้อมูลให้ทราบว่าใบกำกับภาษีใดเป็น E-Tax Invoice
- ระบบบัญชีลูกหนี้ – เพิ่มการเก็บเอกสาร E-Tax Invoice ให้สามารถเปิดดูได้
- ระบบบัญชีเจ้าหนี้ – หน้าบันทึกใบสำคัญตั้งเจ้าหนี้และใบสำคัญจ่ายเงิน : แก้ไขให้สามารถระบุได้ว่าเป็นใบกำกับภาษี E-Tax Invoice หรือไม่
- ระบบบัญชีเจ้าหนี้ – พิมพ์รายงานภาษีซื้อ : แก้ไขให้แสดงข้อมูลให้ทราบว่าใบกำกับภาษีใดเป็น E-Tax Invoice
- ระบบบัญชีเจ้าหนี้ – เพิ่มการเก็บเอกสาร E-Tax Invoice ให้สามารถเปิดดูได้
- อื่น ๆ (ถ้ามี)
โดยทางบริษัทได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสัมมนา เพื่อปรับปรุงโปรแกรมต่อไป เมื่อมีความคืบหน้าใด ๆ จะเรียนให้ทราบครับ สำหรับลูกค้าท่านใดสนใจจะเข้าร่วมสัมมนาของกรมสรรพากร สามารถเข้าร่วมตาม link นี้ครับ “กิจกรรม Workshop : e-Tax invoice by E-mail”
ข้อมูลเพิ่มเติม : เผอิญผมค้นเจอ “ร่าง ข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่จำเป็นต่อธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าด้วยการจัดทาหนังสือรับรองในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สาหรับเสนอคณะทางานพิจารณาร่างข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่จาเป็นต่อธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดทำโดย สานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” จัดทำตั้งแต่ปี ก.ค. 2015 แต่ผมหาตัวที่เป็น Final ของเอกสารนี้ไม่พบครับ แต่ในเอกสารนี้มีข้อมูลน่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อาทิเช่น คำนิยามศัพท์เทคนิคต่าง ๆ, กฎหมายที่เกี่ยวข้อง, ภาพรวมของธุรกรรมอิเล็กทรอนิคแบบต่าง ๆ, 5 คุณสมบัติของเอกสารดิจิตอล, แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นและนำมาใช้จริง ฯลฯ ผมจึงลงไว้ให้ศึกษากันครับ
ใส่ความเห็น